วิธีคิดราคาสติ๊กเกอร์ม้วน กับ 5 ปัจจัย ทำไมสั่งเยอะยิ่งถูก?

โรงพิมพ์คิดราคาสติ๊กเกอร์ม้วนยังไง? เจาะลึก 5 ปัจจัย (วัสดุ, ขนาด, สี, จำนวน) และเหตุผลทางเศรษฐศาสตร์ (Economy of Scale) ว่าทำไมยิ่งสั่งเยอะยิ่งถูก

Key Takeaway

• ราคาไม่ได้ขึ้นอยู่กับจำนวนอย่างเดียว แต่ขึ้นอยู่กับ 5 ปัจจัยหลัก
  • 1.วัสดุ (เช่น PP, กระดาษ, ฟอยล์)
  • 2.ขนาดและรูปทรง
  • 3.ระบบพิมพ์ (Digital/Flexo)
  • 4.เทคนิคพิเศษ (เคลือบ, ปั๊มฟอยล์)
  • 5.จำนวนที่สั่งผลิต
• ทำไมสั่งเยอะยิ่งถูก (Economy of Scale): เพราะการพิมพ์ระบบอุตสาหกรรม (เช่น Flexo) มีต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) สูง (เช่น ค่าเพลท, ค่าตั้งเครื่อง) การสั่งจำนวนมากจะช่วยหารเฉลี่ยต้นทุนคงที่นี้ ทำให้ราคาต่อดวงถูกลงมาก
• ทำไมบางที่ไม่มีขั้นต่ำ: เพราะใช้ระบบพิมพ์ Digital ซึ่งไม่มีต้นทุนคงที่ (ไม่มีค่าเพลท) จึงเหมาะกับงานจำนวนน้อย หรืองานหลายลาย แต่ราคาต่อดวงมักจะคงที่ (ไม่ถูกลงมากเมื่อสั่งเยอะ)

หนึ่งในคำถามที่มักสงสัยเมื่อขอใบเสนอราคากับโรงพิมพ์สติ๊กเกอร์ม้วน “ทำไมสั่ง 1,000 ดวง ราคาดวงละ 2 บาท แต่พอสั่ง 10,000 ดวง เหลือดวงละ 0.50 บาท?” และในขณะเดียวกัน ก็อาจจะสงสัยว่า “ทำไมบางโรงพิมพ์ (เช่น Royal Paper) ถึงบอกว่าไม่มีขั้นต่ำได้ แต่บางโรงพิมพ์ต้องสั่งหลักหมื่น?”

ความจริงคือ ราคาของสติ๊กเกอร์ม้วนไม่ได้คิดแบบ “บัญญัติไตรยางศ์” ตรงไปตรงมา แต่มีปัจจัยด้านต้นทุนการผลิตหลายอย่างมาเกี่ยวข้อง บทความนี้จะอธิบายปัจจัยหลักที่โรงพิมพ์ใช้ในการคำนวณราคา และไขข้อสงสัยว่าทำไมยิ่งสั่งเยอะยิ่งถูก (Economy of Scale)

สารบัญ

แนวคิดสำคัญ ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) vs ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)

นี่คือหัวใจที่ตอบคำถามว่า “ทำไมยิ่งสั่งเยอะยิ่งถูก” ต้นทุนการพิมพ์สติ๊กเกอร์ม้วน 1 ล็อต แบ่งเป็น 2 ส่วน

ต้นทุนคงที่ (Fixed Cost) / ค่าตั้งเครื่อง (Setup Cost)

คือ ค่าใช้จ่ายที่โรงพิมพ์ต้องจ่ายครั้งเดียวในการเริ่มผลิตงาน 1 ล็อต ไม่ว่าคุณจะสั่ง 1,000 ดวง หรือ 100,000 ดวง ต้นทุนส่วนนี้ก็เท่าเดิม เช่น

• ค่าเพลท (Plate Charge): หากพิมพ์ระบบ Flexo ต้องมีค่าแม่พิมพ์สำหรับทุกสี
• ค่าบล็อกไดคัท (Die-cut Block): ค่าแม่พิมพ์สำหรับตัดสติ๊กเกอร์ตามรูปทรงที่ต้องการ
• ค่าตั้งเครื่อง (Setup Time): ค่าแรงและเวลาของช่างในการปรับเครื่อง, ล้างสี, ใส่เพลท

ต้นทุนผันแปร (Variable Cost)

คือ ค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นตามจำนวนที่พิมพ์ยิ่งพิมพ์เยอะ ค่าใช้จ่ายส่วนนี้ยิ่งสูงตาม เช่น

• ค่าเนื้อวัสดุสติ๊กเกอร์ (เช่น PP, กระดาษ)
• ค่าหมึกพิมพ์

สรุปทำไมยิ่งสั่งเยอะ ราคาต่อดวงยิ่งถูก?

เพราะต้นทุนคงที่ (เช่น ค่าเพลท + ค่าไดคัท รวม 2,000 บาท) จะถูกนำมาหารเฉลี่ยกับจำนวนที่สั่ง

• ตัวอย่าง (ระบบ Flexo)
  • สั่ง 1,000 ดวง: (ต้นทุนคงที่ 2,000 บ. / 1,000 ดวง) = ต้นทุนคงที่เฉลี่ย 2 บาท/ดวง
  • สั่ง 100,000 ดวง: (ต้นทุนคงที่ 2,000 บ. / 100,000 ดวง) = ต้นทุนคงที่เฉลี่ย 0.02 บาท/ดวง

นี่คือเหตุผลว่าทำไมการสั่งจำนวนมาก (High Volume) จึงได้ราคาต่อดวงที่ถูกกว่าอย่างก้าวกระโดด

5 ปัจจัยหลัก ที่โรงพิมพ์ใช้ในการคำนวณราคาสติ๊กเกอร์ม้วน

เมื่อคุณขอใบเสนอราคา นี่คือ 5 ปัจจัยหลักที่โรงพิมพ์ (รวมถึง Royal Paper) จะสอบถามและใช้ในการกำหนดราคาและต้นทุนการผลิตของคุณเสมอ

1. วัสดุ (Material)

นี่คือหนึ่งในต้นทุนผันแปรหลัก วัสดุแต่ละชนิดมีราคาทุนต่างกัน

• กลุ่มประหยัด: สติ๊กเกอร์เนื้อกระดาษ (Art Paper, Kraft Paper)
• กลุ่มกันน้ำ (ยอดนิยม): สติ๊กเกอร์ PP (PP ขาวเงา, ขาวด้าน, PP ใส)
• กลุ่มพรีเมียม/พิเศษ: สติ๊กเกอร์ฟอยล์ (เงิน/ทอง), โฮโลแกรม, PET

2. ขนาดและรูปทรง (Size & Shape)

• ขนาด (Size): ยิ่งสติ๊กเกอร์ดวงใหญ่ ก็ยิ่งเปลืองเนื้อวัสดุ (ต้นทุนผันแปรสูงขึ้น)
• รูปทรง (Shape): รูปทรงมาตรฐาน (สี่เหลี่ยม, วงกลม) ที่โรงพิมพ์มีบล็อกไดคัท (Die-cut) อยู่แล้ว อาจช่วยประหยัดค่าบล็อกไดคัท (ต้นทุนคงที่) ได้ แต่ถ้ารูปทรงพิเศษ (เช่น รูปดาว, รูปแมว, รูปทรงเฉพาะ) คุณจะต้องจ่ายค่าบล็อกไดคัทใหม่ในครั้งแรก

3. ระบบพิมพ์และจำนวนสี (Printing System & Colors)

• ระบบพิมพ์: อย่างที่อธิบายไป การเลือกระหว่าง Flexo (เหมาะกับงานใหญ่) หรือ Digital (เหมาะกับงานน้อย/หลายลาย) มีผลต่อโครงสร้างราคาทั้งหมด
• จำนวนสี: ในระบบ Flexo ยิ่งใช้สีเยอะ (เช่น 6 สี + 1 สีขาว) ก็ต้องใช้เพลท 7 เพลท (ต้นทุนคงที่สูงขึ้น) ในขณะที่ระบบ Digital พิมพ์กี่สี (CMYK) ราคาก็เท่าเดิม

4. จำนวนที่สั่ง (Quantity)

ปัจจัยที่สำคัญที่สุดในการหารเฉลี่ยต้นทุนคงที่ ยิ่งสั่งเยอะ ราคาต่อดวงยิ่งถูก เพราะปริมาณที่มากจะช่วยกระจายค่าใช้จ่ายเริ่มต้น (เช่น ค่าเพลท ค่าบล็อกไดคัท) ให้ตกต่อดวงน้อยลงอย่างมาก

5. เทคนิคพิเศษ และ สเปกม้วน (Finishing & Specs)

• เทคนิคหลังพิมพ์ (Finishing): คือการเพิ่มมูลค่า (และต้นทุน) ให้กับสติ๊กเกอร์ เช่น
  • การเคลือบ (Coating): เคลือบลามิเนต OPP เงา / ด้าน, เคลือบ UV
  • การปั๊ม (Stamping): ปั๊มฟอยล์ (Foil Stamp) เช่น สีทอง, เงิน เพื่อความหรูหรา
• สเปกสำหรับเครื่องติดฉลาก (Machine Specs): หากคุณใช้เครื่องติดฉลากอัตโนมัติ โรงพิมพ์ต้องทราบสเปกเหล่านี้เพื่อกำหนดราคาการผลิต
  • ขนาดแกน (Core Size): เช่น 1.5 นิ้ว หรือ 3 นิ้ว
  • ทิศทางเข้าม้วน (Label Direction): การวางแนวสติ๊กเกอร์บนม้วน (เช่น เอาหัวออก, เอาข้างออก)
  • ขนาดม้วนรวม (Max OD): เส้นผ่านศูนย์กลางม้วนรวมต้องไม่เกินที่เครื่องรับได้

สรุป

ราคาของสติ๊กเกอร์ม้วนมีความซับซ้อน มันคือผลรวมของ [ต้นทุนผันแปร (วัสดุ + ขนาด + หมึก)] บวกกับ [ต้นทุนคงที่ (ค่าตั้งเครื่อง + ค่าเพลท + ค่าไดคัท) / จำนวนที่สั่ง]

การเข้าใจปัจจัยเหล่านี้จะช่วยให้คุณประเมินงบประมาณและสื่อสารกับโรงพิมพ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และที่สำคัญที่สุด การเพิ่มปริมาณการสั่งซื้อคือวิธีเดียวที่จะช่วยให้คุณประหยัดต้นทุนได้อย่างก้าวกระโดด ด้วยหลักการ “Economy of Scale” ทำให้ได้ราคาต่อหน่วยที่ถูกลงและสร้างความคุ้มค่าสูงสุดในการผลิตสินค้าของคุณ

คำถามที่พบบ่อย (FAQ)

• Facebook
• Twitter
• Line