ชายหนุ่มกำลังออกแบบเมนูอาหารบนหน้าจอคอมพิวเตอร์

5 เทคนิคการออกแบบเมนูอาหารให้ปังและขายดิบขายดี

การออกแบบเมนูอาหารเป็นมากกว่าแค่การจัดรายการอาหารและราคา แต่มันสะท้อนถึงจิตวิญญาณและเอกลักษณ์ของร้านอาหาร อีกทั้งยังเป็นเครื่องมือทางการตลาดที่มีพลังในการสร้างความประทับใจและช่วยเพิ่มยอดขายให้กับร้านอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณกำลังมองหาวิธีการออกแบบเมนูให้ดูโดดเด่นและดึงดูดลูกค้า บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับ 5 เทคนิคเด็ดที่จะช่วยให้การออกแบบเมนูของคุณปังและขายดิบขายดี

เทคนิคออกแบบเมนูอาหาร มีอะไรบ้าง

ชายคนหนึ่งกำลังถือเมนูอาหารและดูรายละเอียดในการออกแบบเมนู

1.ตั้งชื่ออาหารให้โดนใจ

การตั้งชื่อเมนูอาหารให้น่าสนใจ น่าลิ้มลอง เป็นสิ่งสำคัญมากในการดึงดูดลูกค้าให้อยากสั่งอาหารของเรา ชื่อเมนูควรจะสั้น กระชับ เข้าใจง่าย แต่ในขณะเดียวกันก็ต้องไม่สั้นเกินไปจนดูธรรมดา ไร้เสน่ห์ ไม่น่าค้นหา เช่น แทนที่จะตั้งชื่อแค่ “ส้มตำ” อาจเพิ่มคำอธิบายสั้น ๆ เป็น “ส้มตำซั่ว รสจัดจ้าน ถาดใหญ่” หรือ “ส้มตำปูม้าสด จากทะเลตราด” เพื่อบ่งบอกถึงความพิเศษของเมนูนี้

นอกจากความยาวของชื่อแล้ว การเล่นคำ ใช้คำสัมผัส หรือประดิษฐ์คำใหม่ ๆ ก็เป็นอีกเทคนิคที่ช่วยเรียกความสนใจได้ดี อย่างเช่น “ต้มยำทะเลรวมมิตร” เป็นต้น แต่ต้องระวังอย่าเล่นคำมากเกินไปจนความหมายเพี้ยนเป็นแง่ลบ ทำให้ลูกค้าไม่กล้าสั่ง

2.ออกแบบเมนูให้ดึงดูดสายตา

การออกแบบเมนูอาหารให้ดึงดูดสายตาและน่าสนใจเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการร้านอาหารต้องให้ความใส่ใจ เพราะเมนูถือเป็นหน้าตาของร้านและเป็นสิ่งแรกที่ลูกค้าจะได้เห็นก่อนตัดสินใจสั่งอาหาร ดังนั้นการออกแบบเมนูจึงต้องคำนึงถึงองค์ประกอบหลายอย่าง ทั้งการเลือกใช้สีที่สะดุดตาและสอดคล้องกับธีมของร้าน การใส่ภาพประกอบอาหารแต่ละเมนูเพื่อกระตุ้นความอยากรับประทานให้กับลูกค้า รวมถึงการเลือกใช้ฟอนต์และขนาดตัวอักษรที่อ่านง่าย ชัดเจน

นอกจากนี้เลย์เอาต์ของเมนูก็สำคัญไม่แพ้กัน ควรจัดวางรายการอาหารให้เป็นหมวดหมู่ แยกประเภทอาหารคาวหวานให้ชัดเจน เรียงลำดับเมนูแนะนำ เมนูยอดนิยม และเมนูพิเศษไว้ด้านบน ส่วนเมนูทั่วไปให้เรียงตามลำดับต่อจากนั้น การใช้วัสดุพิมพ์เมนูก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ช่วยสร้างความประทับใจให้ลูกค้า เช่น ร้านอาหารระดับไฮเอนด์อาจเลือกใช้กระดาษคุณภาพดี พิมพ์สีสวยงาม เข้าเล่มปกแข็ง หรือร้านอาหารสไตล์วินเทจอาจใช้กระดาษคราฟท์โทนสีอบอุ่น เพื่อเสริมบรรยากาศและคอนเซ็ปต์ของร้าน

และที่ขาดไม่ได้เลยคือภาพอาหารในเมนู ซึ่งต้องถ่ายออกมาให้สวยงามน่ารับประทาน อาจมีการจัดจานให้ดูน่าทาน ใช้แสงเพื่อเพิ่มความน่าเจริญอาหาร บางร้านอาจใช้เทคนิคการรีทัชภาพเพื่อให้อาหารดูน่าหม่ำยิ่งขึ้นไปอีก เพราะภาพถือเป็นสิ่งดึงดูดลูกค้าได้ดีที่สุด ทำให้ลูกค้าเห็นหน้าตาอาหารชัดเจนและมั่นใจในการสั่งมากขึ้น ซึ่งหากร้านไหนมีเมนูที่ออกแบบมาดี ใส่ใจในรายละเอียด ก็จะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความประทับใจให้ลูกค้าได้อย่างแน่นอน

3.ตั้งราคาให้ลงตัว

การตั้งราคาอาหารเป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อหรือไม่ซื้อ ร้านอาหารต้องคำนึงถึงต้นทุนและกำไรควบคู่กันไป เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดและเติบโตได้อย่างยั่งยืน

ก่อนอื่นเราต้องคำนวณต้นทุนวัตถุดิบของอาหารแต่ละจานอย่างละเอียด ตั้งแต่ราคาของเนื้อสัตว์ ผัก เครื่องปรุง ไปจนถึงภาชนะบรรจุ เพื่อให้ทราบต้นทุนที่แท้จริงต่อจาน จากนั้นจึงบวกกำไรที่ต้องการลงไป โดยอัตรากำไรขั้นต้นที่เหมาะสมของร้านอาหารทั่วไปอยู่ที่ 30-35%

นอกจากต้นทุนแล้ว เรายังต้องสำรวจราคาตลาดของคู่แข่งด้วยว่าเขาขายอาหารประเภทเดียวกันในราคาเท่าไร ถ้าเราตั้งราคาสูงกว่าคู่แข่งมากเกินไป ลูกค้าอาจเลือกไปทานร้านอื่นแทน ในทางกลับกัน หากตั้งราคาต่ำกว่าคู่แข่งมากเกินไป ลูกค้าอาจมองว่าอาหารของเราคุณภาพต่ำ ไม่น่าเชื่อถือ ส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ร้าน

4.ทำเมนูพิเศษต้อนรับเทศกาล

การทำเมนูพิเศษในช่วงเทศกาลนั้นเป็นการสร้างจุดขายให้กับร้านอาหาร ซึ่งจะช่วยกระตุ้นยอดขายและเพิ่มจำนวนลูกค้าได้เป็นอย่างดี โดยเมนูพิเศษนี้ควรมีความโดดเด่น น่าสนใจ และสื่อถึงเทศกาลนั้นๆ ได้อย่างชัดเจน เช่น ในวันพ่อ อาจมีเมนูพิเศษที่เกี่ยวข้องกับความเป็นพ่อ เช่น ข้าวผัดรวมมิตรสไตล์พ่อ หรือ ต้มยำกุ้งน้ำข้นแบบที่พ่อชอบ เป็นต้น

นอกจากนี้ การใช้วัตถุดิบที่มีอยู่ในร้านมาดัดแปลงเป็นเมนูพิเศษก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่จะช่วยประหยัดต้นทุน เพราะไม่ต้องสั่งซื้อวัตถุดิบใหม่เพิ่มเติม อีกทั้งยังเป็นการนำวัตถุดิบที่มีอยู่มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดอีกด้วย

การทำเมนูพิเศษต้อนรับเทศกาลจึงเป็นกลยุทธ์ทางการตลาดที่น่าสนใจ ที่จะช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า แต่ก็ต้องคำนึงถึงต้นทุนและวัตถุดิบที่มีอยู่ด้วย เพื่อให้สามารถทำกำไรได้อย่างคุ้มค่า และยังเป็นการสร้างความแปลกใหม่ให้กับร้านอีกด้วย

5.มีเมนูเพื่อสุขภาพ

ในยุคที่ผู้คนใส่ใจสุขภาพมากขึ้น ร้านอาหารควรปรับตัวให้ทันกับกระแสนี้ด้วยการเพิ่มเมนูเพื่อสุขภาพเข้าไปในรายการอาหาร เมนูเหล่านี้ควรเน้นวัตถุดิบที่ดีต่อร่างกาย เช่น ธัญพืชต่าง ๆ ที่อุดมไปด้วยใยอาหารและสารอาหารสำคัญ ผักสดที่มีวิตามินและแร่ธาตุครบถ้วน เต้าหู้ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนที่ดีสำหรับผู้ที่ไม่ทานเนื้อสัตว์ ผลไม้ที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง ปลาและเนื้อสัตว์ไขมันต่ำที่ให้โปรตีนคุณภาพดี

การมีเมนูเพื่อสุขภาพเหล่านี้จะช่วยเพิ่มทางเลือกให้กับลูกค้าที่รักสุขภาพ ทำให้พวกเขารู้สึกว่าร้านอาหารนั้น ๆ ใส่ใจและเข้าใจความต้องการของพวกเขา นอกจากนี้ยังเป็นการขยายฐานลูกค้าไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ที่มีกำลังซื้อสูงและพร้อมจ่ายมากขึ้นเพื่ออาหารที่ดีต่อสุขภาพอีกด้วย

สรุป

การออกแบบเมนูอาหารนั้นไม่ใช่แค่การจัดวางรายการอาหารและราคาเท่านั้น หากแต่ยังเป็นการถ่ายทอดเอกลักษณ์ของร้านผ่านงานดีไซน์ที่สะดุดตา น่าประทับใจ เพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาลิ้มลองเมนูเด็ดของร้าน ทั้งการตั้งชื่ออาหารให้น่าค้นหา เลือกใช้ภาพประกอบและฟอนต์ที่อ่านง่าย จัดวางองค์ประกอบอย่างลงตัว ตั้งราคาให้เหมาะสมกับคุณภาพและกลุ่มลูกค้า คิดค้นเมนูพิเศษในช่วงเทศกาล และเพิ่มทางเลือกเมนูเพื่อสุขภาพ ซึ่งหากผู้ประกอบการร้านอาหารนำเทคนิคเหล่านี้ไปประยุกต์ใช้ จะช่วยสร้างความโดดเด่นให้กับเมนูร้าน เพิ่มโอกาสในการขายและสร้างความประทับใจแก่ลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ