มือกำลังดึงสายคาดกล่องขนมทีรามิสุ

สายคาดกล่องคืออะไร ทำไมแบรนด์ต้องเลือกใช้?

การสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์ไม่ใช่แค่เรื่องของโลโก้หรือชื่อเท่านั้น แต่ยังรวมถึงรายละเอียดเล็กๆ อย่าง บรรจุภัณฑ์ ที่สามารถสะท้อนตัวตนของแบรนด์ได้อย่างชัดเจน หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมคือ สายคาดกล่อง ซึ่งเป็นวิธีง่ายๆ แต่ช่วยในการเพิ่มความโดดเด่นให้กับสินค้า ไม่ว่าจะเป็นการเพิ่มความสวยงาม การสื่อสารข้อมูลสำคัญ หรือการสร้างความประทับใจแรกแก่ลูกค้า

หากคุณกำลังมองหาวิธีที่จะทำให้สินค้าของคุณโดดเด่นและน่าจดจำ มาดูกันว่าสายคาดกล่องคืออะไร ทำไมแบรนด์ของคุณควรใช้ ช่วยเพิ่มมูลค่าแบรนด์อย่างไร และจะเลือกแบบไหนให้เหมาะกับธุรกิจมากที่สุด!

สายคาดกล่องคืออะไร?

สารบัญเนื้อหา

สายคาดกล่อง (Packaging Sleeve) คือแถบกระดาษหรือพลาสติกที่ใช้คาดรอบบรรจุภัณฑ์เพื่อเพิ่มความสวยงามและสร้างเอกลักษณ์ให้กับแบรนด์ สามารถพิมพ์ลวดลาย โลโก้ ข้อมูลสินค้า หรือข้อความส่งเสริมการขายได้ จึงเป็นวิธีที่ช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับบรรจุภัณฑ์โดยไม่ต้องเปลี่ยนกล่องใหม่ทั้งหมด

ทำไมควรใช้ และสายคาดกล่องช่วยเพิ่มมูลค่าแบรนด์ได้ยังไง

สายคาดกล่อง ไม่ได้เป็นเพียงแค่แถบกระดาษหรือวัสดุที่ใช้รัดกล่องเท่านั้น แต่เป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยสร้างความแตกต่างและเพิ่มมูลค่าให้กับแบรนด์ของคุณได้อย่างน่าทึ่ง แล้วทำไมแบรนด์ถึงควรใช้ สายคาดกล่อง และมันช่วยยกระดับแบรนด์ได้อย่างไร? มาเจาะลึกไปพร้อมๆ กัน

ทำไมแบรนด์ควรใช้สายคาดกล่อง?

1.สร้างความโดดเด่นและจดจำ

ในตลาดที่มีการแข่งขันสูง การสร้างความแตกต่างเป็นสิ่งสำคัญ สายคาดกล่องสวยๆ ที่ออกแบบมาอย่างดีสามารถดึงดูดสายตาและสร้างความประทับใจแรกให้กับลูกค้าได้ทันที ช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและเป็นที่จดจำมากกว่าคู่แข่ง

2.เสริมสร้างเอกลักษณ์ของแบรนด์

สายคาดกล่องเป็นพื้นที่ที่คุณสามารถสื่อสารตัวตนของแบรนด์ได้อย่างเต็มที่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สี โลโก้ หรือข้อความที่สะท้อนถึงคุณค่าและสไตล์ของแบรนด์ การออกแบบ สายคาดกล่องอาหาร ที่มีเอกลักษณ์ จะช่วยสร้างการจดจำและความรู้สึกที่ดีต่อแบรนด์ในใจลูกค้า

3.เป็นเครื่องมือทางการตลาดที่คุ้มค่า

สายคาดกล่องสามารถใช้เป็นพื้นที่โฆษณาเพื่อโปรโมทสินค้าใหม่ แจ้งข่าวสาร หรือให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์แก่ลูกค้า ตัวอย่างเช่น การใส่ QR code บน สติ๊กเกอร์สายคาดกล่อง เพื่อนำลูกค้าไปยังเว็บไซต์หรือหน้าโซเชียลมีเดียของแบรนด์

4.เพิ่มความน่าสนใจและมูลค่าให้กับสินค้า

การออกแบบสายคาดกล่องที่สวยงามและเหมาะสม จะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับสินค้า ทำให้สินค้าดูพรีเมียมและมีมูลค่ามากขึ้น กระดาษคาดกล่อง ที่มีดีไซน์เก๋ๆ จะช่วยยกระดับสินค้าธรรมดาให้กลายเป็นของขวัญที่น่าประทับใจ

5.สร้างความรู้สึกที่ดีให้กับลูกค้า

สายคาดกล่องที่ออกแบบมาอย่างพิถีพิถัน แสดงให้เห็นถึงความใส่ใจในรายละเอียดของแบรนด์ ซึ่งจะสร้างความรู้สึกที่ดีให้กับลูกค้าและเพิ่มความภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว

สายคาดกล่องช่วยเพิ่มมูลค่าแบรนด์ได้อย่างไร?

1.สร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่ง

สายคาดกล่อง ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งและเป็นมืออาชีพให้กับแบรนด์ การเลือกใช้วัสดุที่มีคุณภาพ เช่น สายคาดกล่อง กระดาษคราฟ จะช่วยสื่อถึงความใส่ใจในสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม

2.เพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจ

บรรจุภัณฑ์ที่มี สายคาดกล่อง ที่สวยงามและให้ข้อมูลครบถ้วน จะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือและความไว้วางใจให้กับแบรนด์ ลูกค้าจะรู้สึกมั่นใจในคุณภาพของสินค้าและบริการมากขึ้น

3.สร้างความแตกต่างจากคู่แข่ง

ในตลาดที่มีสินค้าคล้ายคลึงกันมากมาย สายคาดกล่อง เป็นเครื่องมือที่ช่วยให้แบรนด์ของคุณโดดเด่นและแตกต่างจากคู่แข่ง การออกแบบที่สร้างสรรค์และไม่เหมือนใคร จะช่วยดึงดูดความสนใจของลูกค้าและสร้างความได้เปรียบทางการแข่งขัน

4.เพิ่มโอกาสในการบอกต่อ

บรรจุภัณฑ์ที่สวยงามและน่าประทับใจ จะกระตุ้นให้ลูกค้าถ่ายรูปและแชร์ลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นการโปรโมทแบรนด์แบบปากต่อปากที่มีประสิทธิภาพและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้กว้างขึ้น

5.สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกค้า

สายคาดกล่อง สามารถใช้เป็นช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้าโดยตรง เช่น การใส่ข้อความขอบคุณ ข้อความแสดงความห่วงใย หรือโปรโมชั่นพิเศษสำหรับลูกค้าประจำ ซึ่งจะช่วยสร้างความสัมพันธ์ที่ดีและยั่งยืนกับลูกค้า

ธุรกิจที่นิยมใช้สายคาดกล่อง

สายคาดกล่องเป็นเครื่องมือที่มีความยืดหยุ่นในการใช้งาน สามารถปรับใช้กับอุตสาหกรรม กลุ่มธุรกิจต่างๆ ได้อย่างหลากหลาย โดยมีประโยชน์ในการเพิ่มความสวยงาม ป้องกันความเสียหาย และสื่อสารข้อมูลสำคัญ ดังนี้

1.ธุรกิจเกี่ยวกับอาหาร

  • ร้านอาหารและคาเฟ่: ใช้ สายคาดกล่องอาหาร เพื่อเพิ่มความสวยงามให้กับกล่องอาหารเดลิเวอรี่ กล่องเบเกอรี่ หรือใช้ ที่คาดกล่องอาหาร เพื่อสร้างความมั่นใจในความสะอาดและปลอดภัย
  • ร้านเบเกอรี่และขนมหวาน: ใช้ กระดาษคาดกล่อง ที่ออกแบบพิเศษสำหรับขนมอบ เช่น คุกกี้ มาการอง และเค้ก เพื่อสร้างความโดดเด่นและทำให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
  • อาหารพรีเมียม: ธุรกิจที่ขายขนมไฮเอนด์หรืออาหารสุขภาพมักใช้ สายคาดกล่อง กระดาษคราฟท์ เพื่อสื่อถึงภาพลักษณ์รักษ์โลกและเพิ่มความพรีเมียมให้กับสินค้า

2.อุตสาหกรรมสินค้าแฟชั่น

  • แบรนด์เสื้อผ้าและเครื่องประดับ: ใช้ สายคาดกล่อง เพื่อเพิ่มความหรูหราและสร้างเอกลักษณ์ให้กับบรรจุภัณฑ์ เช่น กล่องใส่เสื้อผ้า กระเป๋า และรองเท้า
  • ธุรกิจของขวัญและงานแฮนด์เมด: การใช้ กระดาษคาดกล่อง กับแพ็กเกจของขวัญช่วยให้สินค้าดูพรีเมียมขึ้น และสร้างประสบการณ์การแกะกล่องที่น่าประทับใจ
  • ธุรกิจสินค้าแนวรักษ์โลก: แบรนด์แฟชั่นที่ใช้วัสดุยั่งยืนมักเลือกใช้ สายคาดกล่อง กระดาษคราฟท์ เพื่อสื่อถึงความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

3.อุตสาหกรรมเครื่องสำอาง

  • แบรนด์สกินแคร์และเมคอัพ: ใช้ สายคาดกล่องเครื่องสำอาง เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับแพ็กเกจของสินค้าขนาดเล็ก เช่น ลิปสติก รองพื้น และครีมบำรุงผิว
  • ธุรกิจน้ำหอมและผลิตภัณฑ์พรีเมียม: การใช้ ที่คาดกล่องอาหาร กับสินค้าน้ำหอมช่วยเสริมภาพลักษณ์หรูหรา และช่วยให้ลูกค้าจดจำแบรนด์ได้ง่ายขึ้น
  • เครื่องสำอางออร์แกนิคและวีแกน: การใช้ สายคาดกล่อง กระดาษคราฟท์ เป็นทางเลือกที่นิยม เพราะช่วยสื่อถึงความเป็นธรรมชาติและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

วิธีการเลือกสายคาดกล่องให้เหมาะกับธุรกิจ

การเลือกสายคาดกล่องที่เหมาะสมต้องคำนึงถึงปัจจัยหลายด้านเพื่อให้สอดคล้องกับประเภทสินค้าและกลยุทธ์การตลาดของธุรกิจ โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมอาหารและขนมที่มี สายคาดกล่องอาหาร

1.เลือกวัสดุที่เหมาะสม

การพิจารณาถึง วัสดุสายคาดกล่อง ที่แตกต่างกันเป็นสิ่งสำคัญ เพราะแต่ละชนิดมีคุณสมบัติและภาพลักษณ์ที่เหมาะสมกับสินค้าและแบรนด์ที่แตกต่างกันออกไป ยกตัวอย่างวัสดุที่นิยมใช้ เช่น

  • กระดาษอาร์ตการ์ด: เหมาะกับธุรกิจที่ต้องการภาพลักษณ์หรูหราและประหยัดต้นทุน เช่น สายคาดกล่องอาหาร ที่ต้องการพิมพ์สีสันสดใส
  • พลาสติก (PVC): ทนทานต่อความชื้นและอุณหภูมิ เหมาะกับสินค้าที่ต้องขนส่งระยะไกลหรือมีน้ำ เช่น ที่คาดกล่องอาหาร
  • กระดาษคราฟท์: สื่อถึงภาพลักษณ์รักษ์โลก เหมาะกับแบรนด์ออร์แกนิคหรือสินค้าสมุนไพร

2.ออกแบบให้สื่อถึงแบรนด์

หลักการออกแบบสายคาดกล่องอาหาร

  • สีและโลโก้: ใช้สีที่ตรงกับ CI/CD ของแบรนด์ เช่น สีประจำร้านอาหารหรือสโลแกน
  • ภาพประกอบ: เพิ่มลายการ์ตูนสำหรับกลุ่มเด็ก หรือสไตล์ทันสมัยสำหรับวัยรุ่น เพื่อดึงดูดกลุ่มเป้าหมาย
  • เทคนิคพิเศษ: ใช้การพิมพ์เคลือบเงาหรือสปอตยูวีเพื่อเพิ่มความโดดเด่น

3.ขนาดที่เหมาะสม

คำนวณขนาดสายคาดกล่อง

  • ความกว้าง: ควรเป็น 1/4 ของความกว้างกล่อง
  • ความยาว: ใช้เทคนิค “พับครึ่ง” ให้ได้ความยาว 2 เท่าของกล่อง
  • ตัวอย่าง: สายคาดกล่องอาหารขนาดกลาง (40-45 ซม.) สำหรับกล่องอาหารจานเดียว

4.เลือกพิมพ์แบบไหน

ออฟเซ็ต vs ดิจิทัล

  • ออฟเซ็ต: เหมาะกับการสั่งจำนวนมาก (ตั้งแต่ 1,000 ชิ้นขึ้นไป) ให้สีสันสม่ำเสมอ
  • ดิจิทัล: เหมาะกับการสั่งจำนวนเล็ก (ไม่มีขั้นต่ำ) และต้องการความแม่นยำในรายละเอียด

สายคาดกล่อง ทำเอง เหมาะกับธุกิจแบบไหน?

1.ธุรกิจขนาดเล็กและ SME

  • ข้อดี: สามารถควบคุมต้นทุนได้เต็มที่ ออกแบบได้ตามใจชอบ และปรับเปลี่ยนได้ง่ายตามความต้องการ
  • ตัวอย่าง: ร้านเบเกอรี่เล็กๆ ที่ต้องการ สายคาดกล่องอาหาร ที่มีดีไซน์น่ารัก หรือร้านขายของขวัญที่ต้องการ กระดาษคาดกล่อง ที่มีลวดลายเฉพาะ

2.ธุรกิจที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง

  • ข้อดี: สามารถปรับเปลี่ยนดีไซน์ของสายคาดกล่องได้ง่ายตามเทศกาล โปรโมชั่น หรือสินค้าใหม่
  • ตัวอย่าง: ร้านค้าออนไลน์ที่ต้องการ สติ๊กเกอร์สายคาดกล่อง ที่มีข้อความโปรโมชั่นเฉพาะช่วงเวลา หรือร้านอาหารที่ต้องการ สายคาดกล่อง กระดาษคราฟ ที่เปลี่ยนดีไซน์ตามฤดูกาล

3.ธุรกิจที่ต้องการสร้างความแตกต่าง

  • ข้อดี: สามารถออกแบบสายคาดกล่องให้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างความโดดเด่นให้กับแบรนด์ และสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า
  • ตัวอย่าง: แบรนด์เครื่องสำอางที่ต้องการ สายคาดกล่องสวยๆ ที่มีลวดลายที่เป็นเอกลักษณ์ หรือแบรนด์เสื้อผ้าที่ต้องการ กระดาษคาดกล่อง ที่มีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร

4.ธุรกิจที่เน้นงานฝีมือและ DIY

  • ข้อดี: สามารถสร้างสายคาดกล่องที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสะท้อนถึงความเป็นแบรนด์ได้อย่างชัดเจน
  • ตัวอย่าง: ร้านขายสินค้าแฮนด์เมดที่ต้องการ สายคาดกล่อง ที่ทำจากวัสดุธรรมชาติ หรือร้านขายของที่ระลึกที่ต้องการ สติ๊กเกอร์คาดกล่อง ที่มีลวดลายทำมือ

แนะนำการออกแบบ “สายคาดกล่อง Canva” ง่ายๆ ด้วยตัวเอง

Canva เป็นเครื่องมือออกแบบออนไลน์ที่ใช้งานง่าย มีเทมเพลตและองค์ประกอบต่างๆ ให้เลือกใช้มากมาย เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการออกแบบสายคาดกล่องด้วยตัวเอง

ขั้นตอนการออกแบบสายคาดกล่องด้วย Canva

  1. สมัครสมาชิก Canva: เข้าไปที่เว็บไซต์ Canva (https://www.canva.com/) และสมัครสมาชิกฟรี
  2. เลือกขนาด: เลือกขนาดที่เหมาะสมกับสายคาดกล่องของคุณ หรือกำหนดขนาดเองได้
  3. เลือกเทมเพลต: เลือกเทมเพลตที่ชอบ หรือเริ่มออกแบบใหม่ทั้งหมด
  4. ปรับแต่งดีไซน์: ใส่โลโก้ ข้อความ รูปภาพ และองค์ประกอบอื่นๆ ตามต้องการ
  5. ดาวน์โหลด: ดาวน์โหลดไฟล์ในรูปแบบที่ต้องการ เช่น PDF หรือ PNG
  6. พิมพ์: นำไฟล์ไปพิมพ์ที่ร้านพิมพ์ หรือพิมพ์เองก็ได้

ข้อควรระวังในการออกแบบ “สายคาดกล่อง Canva”: รู้ไว้ก่อนเริ่ม

แม้ว่า Canva จะเป็นเครื่องมือออกแบบที่ใช้งานง่ายและสะดวก แต่ก็มีข้อควรระวังบางประการที่ควรรู้ เพื่อให้การออกแบบ สายคาดกล่อง Canva ของคุณมีประสิทธิภาพและได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด

1.ลิขสิทธิ์ขององค์ประกอบ

  • ปัญหา: Canva มีองค์ประกอบฟรีและเสียเงินให้เลือกใช้มากมาย แต่ต้องระวังเรื่องลิขสิทธิ์ โดยเฉพาะองค์ประกอบที่เสียเงิน หากคุณไม่ได้ซื้อสิทธิ์การใช้งาน อาจมีปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์ตามมา
  • วิธีแก้ไข: ตรวจสอบสิทธิ์การใช้งานขององค์ประกอบแต่ละชิ้นก่อนนำมาใช้ หากไม่แน่ใจ ให้เลือกใช้องค์ประกอบฟรี หรือซื้อสิทธิ์การใช้งานให้ถูกต้อง

2.ความละเอียดของรูปภาพ

  • ปัญหา: รูปภาพที่มีความละเอียดต่ำ เมื่อนำมาขยายขนาด อาจทำให้ภาพแตก ไม่คมชัด และส่งผลเสียต่อภาพลักษณ์ของแบรนด์
  • วิธีแก้ไข: ใช้รูปภาพที่มีความละเอียดสูง (อย่างน้อย 300 DPI) หรือใช้ภาพเวกเตอร์ที่สามารถขยายขนาดได้โดยไม่เสียความคมชัด

3.สีที่แสดงผลบนหน้าจอ

  • ปัญหา: สีที่แสดงผลบนหน้าจออาจแตกต่างจากสีที่พิมพ์ออกมา เนื่องจากความแตกต่างของระบบสี (RGB vs CMYK) ทำให้สีที่ได้ไม่ตรงกับที่ต้องการ
  • วิธีแก้ไข: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าไฟล์งานของคุณอยู่ในระบบสี CMYK ก่อนนำไปพิมพ์ หรือสอบถามกับร้านพิมพ์เพื่อขอคำแนะนำ

4.ขนาดและสัดส่วน

  • ปัญหา: การกำหนดขนาดและสัดส่วนที่ไม่ถูกต้อง อาจทำให้สายคาดกล่องที่พิมพ์ออกมาไม่พอดีกับกล่อง หรือทำให้องค์ประกอบต่างๆ ดูไม่สมดุล
  • วิธีแก้ไข: วัดขนาดกล่องให้แม่นยำ และกำหนดขนาดของสายคาดกล่องให้เหมาะสม ใช้เทมเพลตหรือไกด์ไลน์เพื่อช่วยในการจัดวางองค์ประกอบ

5.ฟอนต์ที่อ่านยาก

  • ปัญหา: การเลือกใช้ฟอนต์ที่ไม่เหมาะสม อาจทำให้ข้อความบนสายคาดกล่องอ่านยาก และสื่อสารข้อมูลได้ไม่ชัดเจน
  • วิธีแก้ไข: เลือกใช้ฟอนต์ที่อ่านง่ายและเหมาะสมกับสไตล์ของแบรนด์ หลีกเลี่ยงการใช้ฟอนต์ที่หวือหวาหรือมีลวดลายมากเกินไป

6.ความสมดุลขององค์ประกอบ

  • ปัญหา: การจัดวางองค์ประกอบที่ไม่สมดุล อาจทำให้สายคาดกล่องดูรก ไม่น่าสนใจ และไม่สื่อถึงความเป็นมืออาชีพ
  • วิธีแก้ไข: จัดวางองค์ประกอบให้มีความสมดุล ใช้พื้นที่ว่างให้เป็นประโยชน์ และจัดเรียงองค์ประกอบให้เป็นระเบียบ

7.การตรวจสอบก่อนพิมพ์

  • ปัญหา: การละเลยการตรวจสอบไฟล์ก่อนพิมพ์ อาจทำให้เกิดข้อผิดพลาด เช่น สะกดผิด รูปภาพไม่คมชัด หรือสีไม่ถูกต้อง
  • วิธีแก้ไข: ตรวจสอบไฟล์อย่างละเอียดก่อนส่งพิมพ์ ตรวจสอบตัวสะกด ความละเอียดของรูปภาพ และสีที่ใช้ หากเป็นไปได้ ให้ขอตัวอย่างก่อนพิมพ์จริง

รับผลิตสายคาดกล่อง คุณภาพดี

โรงพิมพ์ Royalpaper เรารับผลิต สายคาดกล่องหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็น สายคาดกล่องอาหาร กล่องเบเกอรี่ กล่องเค้ก กล่องเครื่องสำอางต่างๆ ราคาเป็นกันเอง และมีบริการออกแบบตามความต้องการของลูกค้าทุกรูปแบบ

หากสนใจสามารถติดต่อได้ที่

โทร. 094-364-6396 (ฝ่ายขาย)

LINE OFFICIAL ACCOUNT: @royalpaper

Website : www.royalpaper.co.th

สรุป

สายคาดกล่องเป็นเครื่องมือที่ “ใช้งานได้หลากหลาย” ซึ่งช่วยเพิ่มความสวยงาม สร้างแบรนด์ และสื่อสารข้อมูลสำคัญบนบรรจุภัณฑ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยเหมาะสำหรับธุรกิจหลายประเภท และการเลือกใช้วัสดุ การออกแบบ รวมถึงขนาดที่เหมาะสม จะช่วยสร้างความโดดเด่น เพิ่มมูลค่า ตลอดจนสร้างความประทับใจให้กับลูกค้า

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับสายคาดกล่อง

1.สายคาดกล่องมีประโยชน์อย่างไร?

สายคาดกล่องช่วยเพิ่มความสวยงาม สร้างเอกลักษณ์ให้แบรนด์ สื่อสารข้อมูลสำคัญ และเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้า ทำให้สินค้าดูน่าสนใจและโดดเด่นกว่าคู่แข่ง

2.สายคาดกล่องมีหลายประเภทหรือไม่?

มีหลากหลายประเภท ทั้งตามวัสดุ (เช่น กระดาษ พลาสติก) และรูปแบบการใช้งาน (เช่น แบบสวม แบบพันรอบ แบบมีกาว) ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสินค้าและงบประมาณ

3.สายคาดกล่องใช้ทำอะไรบ้าง?

ใช้คาดรอบกล่องเพื่อเพิ่มความสวยงาม ป้องกันการเปิดออกของกล่อง สื่อสารข้อมูลโปรโมชั่น หรือใช้เป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์