ชายคนหนึ่งกำลังมองชั้นวางของที่เต็มไปด้วยตัวอย่างฟิล์มเคลือบสำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์ พร้อมข้อความ 'ชนิดฟิล์มที่ใช้เคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์สินค้า มีกี่ประเภท'

ชนิดฟิล์มที่ใช้เคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์สินค้า มีกี่ประเภท

การเลือกชนิดฟิล์มเคลือบสำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์สินค้าไม่เพียงแต่เพิ่มความทนทานและประสิทธิภาพในการป้องกันสินค้าเท่านั้น แต่ยังช่วยเสริมความสวยงามและเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าด้วย หลายคนอาจสงสัยว่ามีชนิดฟิล์มเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์กี่ประเภทและแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไรบ้างที่สามารถตอบโจทย์การใช้งานและความต้องการของผู้ผลิต ในบทความนี้ เราจะไขข้อสงสัยเหล่านี้ด้วยการสำรวจหลากหลายชนิดฟิล์มที่โรงพิมพ์ royalpaper นำมาใช้ในการเคลือบกล่องบรรจุภัณฑ์ ตั้งแต่การเคลือบแบบ UV ไปจนถึงการเคลือบด้วยวานิช แต่ละชนิดมีคุณสมบัติและข้อดีที่แตกต่างกัน เพื่อให้คุณสามารถเลือกชนิดฟิล์มที่เหมาะสมที่สุดสำหรับผลิตภัณฑ์ของคุณ

หญิงสาวกำลังเลือกตัวอย่างฟิล์มเคลือบที่ใช้สำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์ พร้อมข้อความ '5 ชนิดฟิล์มที่ใช้รับทำกล่อง'

5 ชนิดฟิล์มที่ใช้รับทำกล่อง

ที่โรงพิมพ์ royalpaper ใช้ฟิล์มหลากหลายชนิดในการเคลือบกล่อง ดังนี้

1.การเคลือบแบบ UV

การเคลือบแบบ UV เป็นเทคนิคที่นิยมใช้ในอุตสาหกรรมการพิมพ์เพื่อเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานของผิวงานพิมพ์ รวมทั้งเพิ่มความสวยงามให้กับผลิตภัณฑ์ การเคลือบ UV ทำงานโดยการใช้แสงอัลตราไวโอเลต (UV) ในการทำให้แห้งหรือทำให้สารเคลือบเซ็ตตัวอย่างรวดเร็วบนผิวงาน ซึ่งจะทำให้ผิวงานมีความเงางามหรือมีลักษณะด้านตามความต้องการ

ข้อดีของการเคลือบแบบ UV

  • ความเร็วในการแห้ง: การเคลือบ UV แห้งเกือบทันทีเมื่อได้รับแสง UV ซึ่งช่วยลดเวลาในการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
  • ความทนทานสูง: ช่วยป้องกันการขีดข่วนและการสึกหรอ ทำให้ผลิตภัณฑ์ทนทานต่อการใช้งานและสภาพแวดล้อมได้ดีขึ้น
  • ความสวยงาม: การเคลือบ UV สามารถเพิ่มความเงางามและความคมชัดของสีพิมพ์ ทำให้ผลิตภัณฑ์ดูมีคุณภาพและน่าสนใจยิ่งขึ้น

ข้อพิจารณา

  • กลิ่น: สารเคลือบ UV บางชนิดอาจมีกลิ่นแรงซึ่งอาจไม่เหมาะสำหรับผลิตภัณฑ์ที่ใกล้ชิดกับอาหารหรือยา เนื่องจากกลิ่นอาจส่งผลต่อคุณภาพหรือความปลอดภัยของสินค้า

2.การเคลือบแบบ PVC หรือ ลามิเนต

การเคลือบแบบ PVC หรือลามิเนตเป็นกระบวนการที่ใช้สำหรับเพิ่มความทนทานและปรับปรุงคุณภาพการป้องกันของผิวงานพิมพ์หรือกล่องบรรจุภัณฑ์ โดยทั่วไป มันเกี่ยวข้องกับการใช้ฟิล์มพลาสติก PVC (Polyvinyl Chloride) ที่ถูกเคลือบลงบนผิวงานผ่านกระบวนการใช้ความร้อนหรือกาว เพื่อสร้างชั้นป้องกันที่มีประสิทธิภาพสูง

ข้อดีของการเคลือบแบบ PVC

  • ความทนน้ำ: ฟิล์ม PVC มีคุณสมบัติกันน้ำอย่างดีเยี่ยม ช่วยป้องกันไม่ให้ความชื้นซึมผ่านเข้าไปในผลิตภัณฑ์ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากสำหรับกล่องบรรจุภัณฑ์ที่ต้องเผชิญกับสภาพแวดล้อมที่มีความชื้นสูง
  • ความแข็งแรงและความทนทาน: เคลือบด้วย PVC ช่วยเพิ่มความแข็งแรงและความทนทานต่อการขีดข่วน ทำให้ผลิตภัณฑ์สามารถรักษาสภาพเดิมได้นานขึ้น
  • ความสวยงาม: นอกจากการป้องกันแล้ว การเคลือบ PVC ยังเพิ่มความสวยงามให้กับผลิตภัณฑ์ด้วยเนื่องจากมันสามารถทำให้ผิวงานมีความเงางามและสีสันที่สดใส

ข้อพิจารณา

  • ต้นทุน: แม้การเคลือบลามิเนตจะเสนอความคงทนและคุณภาพที่เพิ่มขึ้นให้กับผลิตภัณฑ์ แต่ต้นทุนในการเคลือบด้วย PVC อาจสูงกว่าวิธีการเคลือบอื่นๆ เนื่องจากต้องใช้วัสดุและกระบวนการที่มีความซับซ้อนมากขึ้น

3.การเคลือบวานิช

การเคลือบวานิชเป็นเทคนิคการเคลือบผิวงานพิมพ์ที่ใช้น้ำมันวานิชเพื่อเพิ่มความคงทนให้กับผิวของงานพิมพ์ น้ำมันวานิชที่ใช้ในกระบวนการนี้มีลักษณะเป็นสารเคลือบใส ซึ่งสามารถเพิ่มคุณภาพผิวของกระดาษโดยไม่เปลี่ยนแปลงลักษณะเดิมมากนัก ทำให้เหมาะสมกับการใช้งานที่ต้องการรักษาความรู้สึกและลักษณะธรรมชาติของกระดาษ

คุณสมบัติของการเคลือบวานิช

  • ความคงทน: การเคลือบวานิชช่วยเพิ่มความคงทนต่อการสึกหรอและการฉีกขาด รวมถึงการป้องกันจากฝุ่นและสิ่งสกปรกอื่นๆ ที่อาจทำให้ผิวงานพิมพ์เสียหาย
  • ลักษณะผิว: แม้ว่าการเคลือบวานิชจะไม่ให้ความเงามากนัก แต่ก็สามารถเพิ่มความสวยงามและความรู้สึกที่ดีเมื่อสัมผัส นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงความคมชัดของหมึกพิมพ์บนผิวกระดาษ

ข้อพิจารณา

  • การใช้งาน: การเคลือบวานิชมักใช้กับผลิตภัณฑ์พิมพ์ที่ไม่ต้องการความเงาสูง เช่น หนังสือ ป้ายราคา และแผ่นพับ ซึ่งต้องการรักษาลักษณะธรรมชาติของกระดาษและให้ความรู้สึกที่ดีเมื่อสัมผัส

4.การเคลือบแบบ Water Base

การเคลือบแบบ Water Base หรือการเคลือบด้วยน้ำ การเคลือบนี้มีจุดเด่นคือเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมเนื่องจากใช้สารเคลือบที่ละลายน้ำได้ ซึ่งหมายความว่ามีการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายน้อยลงในกระบวนการผลิต ทำให้เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความยั่งยืนทางสิ่งแวดล้อม

คุณสมบัติของการเคลือบแบบ Water Base

  • ความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม: การใช้สารเคลือบที่มีฐานเป็นน้ำช่วยลดการใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายและลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ทำให้เป็นทางเลือกที่ยอดเยี่ยมสำหรับโครงการที่ต้องการความยั่งยืน
  • ความคงทน: แม้จะไม่มีความเงามากเท่ากับวิธีการเคลือบอื่นๆ เช่น UV หรือ PVC แต่การเคลือบแบบ Water Base ก็ยังช่วยเพิ่มความคงทนของผลิตภัณฑ์พิมพ์ต่อการฉีกขาดหรือการขีดข่วนได้

ข้อพิจารณา

  • ความเหมาะสมสำหรับโครงการ: เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่ต้องการความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและความคงทน แต่ไม่จำเป็นต้องมีความเงาสูง เช่น ผลิตภัณฑ์บรรจุภัณฑ์, หนังสือ, หรือแผ่นพับที่ต้องการแสดงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม

5.การเคลือบแบบสปอร์ตยูวี

การเคลือบแบบสปอร์ตยูวี (Spot UV) เป็นกระบวนการเคลือบพิเศษที่ใช้เทคนิคการเคลือบ UV บนพื้นที่เฉพาะกิจของผลิตภัณฑ์พิมพ์ เพื่อเพิ่มความเงาและความโดดเด่นให้กับบางส่วนของงานพิมพ์ ไม่ใช่ทั้งหมด การใช้สปอร์ตยูวีทำให้สามารถสร้างความแตกต่างระหว่างพื้นที่ที่มีการเคลือบและไม่มีการเคลือบ สร้างมิติและความสนใจให้กับงานพิมพ์ได้ดีเยี่ยม

คุณสมบัติของการเคลือบแบบสปอร์ตยูวี

  • ความโดดเด่น: การเคลือบสปอร์ตยูวีช่วยเน้นย้ำพื้นที่เฉพาะให้โดดเด่นด้วยความเงาสูง ทำให้เหมาะสำหรับเน้นลายโลโก้ ชื่อแบรนด์ หรือลวดลายที่ต้องการให้เด่นชัด
  • เพิ่มมิติและความสนใจ: การใช้สปอร์ตยูวีสามารถเพิ่มความสนใจและมิติให้กับผลิตภัณฑ์พิมพ์ ทำให้ดูมีคุณภาพและมีมูลค่ามากขึ้น

ข้อพิจารณา

  • กลิ่น: เช่นเดียวกับการเคลือบแบบ UV ทั่วไป การเคลือบสปอร์ตยูวีอาจทิ้งกลิ่นที่เหม็นอยู่บ้าง ซึ่งอาจเป็นปัญหาในบางสถานการณ์หรือสำหรับผลิตภัณฑ์บางประเภท

สรุป

จากบทความจะเห็นได้ว่าแต่ละชนิดฟิล์มนี้มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกัน ทำให้สามารถเลือกใช้ได้ตามความต้องการและลักษณะของผลิตภัณฑ์ที่ต้องการบรรจุ จากการปรับปรุงความทนทานไปจนถึงการเพิ่มคุณภาพทางด้านความสวยงามของผลิตภัณฑ์.