ภาพบัตรพลาสติกใส แสดงข้อมูล
Blog

วัสดุที่ใช้ผลิตบัตรพลาสติกมีอะไรบ้าง ขนาดเท่าไหร่

เคยสงสัยไหมว่าบัตรเครดิต บัตรสมาชิก หรือบัตรพนักงานที่เราใช้กันทุกวัน ทำมาจากอะไร? ในยุคดิจิทัล บัตรพลาสติกยังคงมีบทบาทสำคัญในชีวิตของเรา แล้วอะไรคือเคล็ดลับความทนทานของมัน? บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตบัตรพลาสติก รวมถึงขนาดมาตรฐาน และปัจจัยในการเลือกใช้วัสดุ เพื่อให้คุณเข้าใจถึงคุณสมบัติและความเหมาะสมของการใช้งาน

ปัจจุบัน บัตรพลาสติกถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในหลากหลายด้าน เช่น การเงิน (บัตรเครดิต บัตรเดบิต) การขนส่ง (บัตรโดยสาร) การยืนยันตัวตน (บัตรประชาชน บัตรพนักงาน) และอื่นๆ อีกมากมาย ทำให้ความเข้าใจในวัสดุที่ใช้ผลิตบัตรเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ

วัสดุที่ใช้ผลิตบัตรพลาสติก

วัสดุหลักที่ใช้ในการผลิตบัตรพลาสติกมีดังนี้

1.PVC (Polyvinyl Chloride)

เป็นพลาสติกที่มีความยืดหยุ่น ทนทาน ราคาถูก และเป็นที่นิยมใช้มากที่สุดในการผลิตบัตรทั่วไป เช่น บัตรสมาชิก บัตรของขวัญ บัตรพนักงาน ข้อดีของ PVC คือราคาที่เข้าถึงง่ายและกระบวนการผลิตที่ไม่ซับซ้อน แต่มีข้อเสียคือความทนทานต่อความร้อนและสารเคมีบางชนิดอาจไม่สูงเท่าวัสดุอื่นๆ

2.PET (Polyethylene Terephthalate)

เป็นพลาสติกที่มีความแข็งแรง ทนทานต่อแรงกระแทกและความร้อนสูง และยังสามารถรีไซเคิลได้ ทำให้เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มักใช้กับบัตรที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต แม้จะมีราคาสูงกว่า PVC แต่ก็มีความทนทานที่เหนือกว่า

3.ABS (Acrylonitrile Butadiene Styrene)

เป็นพลาสติกที่มีความทนทานต่อแรงกระแทกและความร้อน และมีความยืดหยุ่นในระดับหนึ่ง มักใช้กับบัตรที่มีการใช้งานเฉพาะ เช่น บัตรที่มีแถบแม่เหล็ก หรือชิป IC เนื่องจากมีความทนทานและรองรับการใช้งานที่หลากหลาย แต่ราคาก็สูงกว่า PVC เช่นกัน

4.วัสดุอื่นๆ

นอกจากวัสดุหลักที่กล่าวมา ยังมีวัสดุอื่นๆ ที่อาจใช้ในการผลิตบัตรพลาสติก เช่น Polycarbonate ซึ่งมีความแข็งแรงและทนทานสูง หรือ PETG (Polyethylene Terephthalate Glycol) ซึ่งมีความยืดหยุ่นและทนทานต่อสารเคมี

ขนาดมาตรฐานของบัตรพลาสติก

ขนาดมาตรฐานของบัตรพลาสติกอิงตามมาตรฐาน ISO/IEC 7810 ID-1 ซึ่งกำหนดขนาดและความหนาของบัตร เพื่อให้บัตรสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้ทั่วโลก เช่น เครื่องอ่านบัตร ATM เครื่องอ่านบัตรเครดิต และเครื่องพิมพ์บัตร

ขนาด (Dimensions)

  • ความกว้าง (Width): 85.6 มิลลิเมตร (3.370 นิ้ว) หรือประมาณ 3 3/8 นิ้ว
  • ความยาว (Length): 53.98 มิลลิเมตร (2.125 นิ้ว) หรือประมาณ 2 1/8 นิ้ว

ขนาดนี้เรียกว่า “ID-1” ซึ่งเป็นขนาดที่ใช้กันแพร่หลายที่สุดสำหรับบัตรต่างๆ เช่น บัตรเครดิต บัตรเดบิต บัตรประชาชน บัตรสมาชิก บัตรพนักงาน และอื่นๆ ทำให้ง่ายต่อการพกพาในกระเป๋าสตางค์หรือช่องใส่บัตรต่างๆ

ความหนา (Thickness)

มาตรฐาน: 0.76 มิลลิเมตร (30 mil หรือ 0.030 นิ้ว) ซึ่งเป็นความหนาที่พบได้ทั่วไปสำหรับบัตรพลาสติกส่วนใหญ่ ความหนาระดับนี้ให้ความแข็งแรงและความยืดหยุ่นที่เหมาะสม ทำให้บัตรทนทานต่อการงอและหัก

ความหนาอื่นๆ: นอกจากความหนามาตรฐานแล้ว ยังมีความหนาอื่นๆ ที่ใช้ในบางกรณี

  • 0.5 มิลลิเมตร (20 mil): บัตรที่มีความหนาน้อยกว่า มักใช้สำหรับบัตรที่ต้องการความยืดหยุ่นสูง หรือบัตรที่ใช้ในระยะเวลาสั้นๆ เช่น บัตรเข้างาน บัตรของขวัญชั่วคราว
  • 0.8 มิลลิเมตร (32 mil): บัตรที่มีความหนามากกว่า มักใช้สำหรับบัตรที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ เช่น บัตรที่ต้องใช้งานหนัก หรือบัตรที่มีเทคโนโลยีฝังอยู่ภายใน เช่น บัตรที่มีชิป IC หรือเสาอากาศ RFID

ความสำคัญของมาตรฐาน ISO/IEC 7810 ID-1

  • ความเข้ากันได้ (Compatibility): มาตรฐานนี้ช่วยให้มั่นใจได้ว่าบัตรที่ผลิตจากที่ต่างๆ ทั่วโลกสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์อ่านและประมวลผลบัตรได้โดยไม่มีปัญหา
  • คุณภาพ (Quality): มาตรฐานนี้กำหนดเกณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับขนาด ความหนา วัสดุ และคุณสมบัติอื่นๆ ของบัตร เพื่อให้ได้บัตรที่มีคุณภาพและประสิทธิภาพในการใช้งาน
  • ความสะดวก (Convenience): ขนาดมาตรฐานทำให้ง่ายต่อการออกแบบ การผลิต และการใช้งานบัตร รวมถึงการจัดเก็บและพกพา

ปัจจัยในการเลือกใช้วัสดุ

การเลือกใช้วัสดุในการผลิตบัตรพลาสติกขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ

  • งบประมาณ: PVC เป็นตัวเลือกที่ประหยัดที่สุด ในขณะที่ PET และ ABS มีราคาสูงกว่า
  • ความทนทาน: หากต้องการบัตรที่มีความทนทานสูง ควรเลือก PET หรือ ABS เพื่อรองรับการใช้งานที่สมบุกสมบัน หรือการใช้งานในสภาพแวดล้อมที่อาจทำให้บัตรเสียหายได้ง่าย
  • วัตถุประสงค์การใช้งาน: บัตรทั่วไปที่ใช้งานไม่บ่อยนัก เช่น บัตรสมาชิก อาจเลือกใช้ PVC แต่หากเป็นบัตรที่มีแถบแม่เหล็ก หรือชิป IC ควรเลือก ABS เพื่อรองรับการใช้งานทางเทคโนโลยี
  • ความปลอดภัย: ควรพิจารณาถึงความปลอดภัยของวัสดุต่อผู้ใช้งานและสิ่งแวดล้อม โดยเลือกใช้วัสดุที่ได้มาตรฐานและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมหากเป็นไปได้

สรุป

การเลือกใช้วัสดุที่เหมาะสมในการผลิตบัตรพลาสติกมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคุณภาพและความทนทานของบัตร โดยพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น งบประมาณ ความทนทาน วัตถุประสงค์การใช้งาน และความปลอดภัย หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจถึงวัสดุต่างๆ ที่ใช้ในการผลิตบัตรพลาสติก และสามารถเลือกใช้วัสดุได้อย่างเหมาะสมกับความต้องการ

Related Posts

Blog
ภาพถุงกระดาษหูหิ้วสีชมพู พร้อมข้อความ

ประเภทของถุงกระดาษหูหิ้ว มีอะไรบ้าง แตกต่างกันอย่างไร

เคยสงสัยไหมว่าถุงกระดาษที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้มีกี่แบบ และแต่ละแบบเหมาะกับการใช้งานแบบไหน? ตั้งแต่การซื้อของใช้ในชีวิตประจำวัน ไปจนถึงการมอบของขวัญในโอกาสพิเศษ ถุงกระดาษหูหิ้วกลายเป็นส่วนหนึ่งในชีวิตประจำวันของเราไปแล้ว ไม่เพียงแต่ทำหน้าที่บรรจุสิ่งของ แต่ยังสะท้อนภาพลักษณ์ของแบรนด์และความใส่ใจต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย ในยุคที่ผู้คนหันมาใส่ใจสิ่งแวดล้อมมากขึ้น การเลือกใช้ถุงกระดาษจึงเป็นทางเลือกที่ได้รับความนิยม เพราะสามารถนำไปรีไซเคิลและย่อยสลายได้ง่ายกว่าถุงพลาสติก บทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับถุงกระดาษหูหิ้วประเภทต่างๆ พร้อมทั้งอธิบายความแตกต่างและข้อดีข้อเสียของแต่ละประเภท เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ถุงกระดาษได้อย่างเหมาะสมกับธุรกิจหรือการใช้งานของคุณ 7 ประเภทของถุงกระดาษหูหิ้วที่นิยมใช้ ถุงกระดาษหูหิ้วมีหลากหลายประเภท แต่ละประเภทมีลักษณะเฉพาะที่แตกต่างกัน ดังนี้ 1.ถุงกระดาษหูหิ้วไดคัท (Die-cut Handle Bags) ถุงประเภทนี้มีหูหิ้วที่ถูกเจาะหรือตัดเป็นช่องบนตัวถุงโดยตรง ทำให้ง่ายต่อการถือและพกพา ข้อดีคือมีต้นทุนการผลิตที่ต่ำ แต่ข้อเสียคือรับน้ำหนักได้จำกัด อาจฉีกขาดได้ง่ายหากใส่ของหนัก เหมาะสำหรับสินค้าขนาดเล็ก น้ำหนักเบา เช่น เสื้อผ้า เครื่องประดับ ของที่ระลึก หรือสินค้าส่งเสริมการขาย 2.ถุงกระดาษหูหิ้วเกลียว (Twisted Handle Bags) หูหิ้วของถุงประเภทนี้ทำจากกระดาษม้วนเป็นเกลียว ทำให้มีความแข็งแรงและทนทาน สามารถรับน้ำหนักได้ดีกว่าแบบไดคัท และมีราคาไม่แพงมากนัก ข้อเสียคืออาจไม่สวยงามเท่าถุงประเภทอื่น เหมาะสำหรับสินค้าทั่วไป สินค้าในซูเปอร์มาร์เก็ต สินค้าแฟชั่น หรือสินค้าที่ต้องการความแข็งแรงในระดับหนึ่ง 3.ถุงกระดาษหูหิ้วแบน (Flat Handle Bags) ถุงประเภทนี้มีหูหิ้วที่ทำจากกระดาษแบนพับติดกับตัวถุง มีลักษณะเรียบง่าย ดูดี และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม […]