รู้จัก Festive Marketing กลยุทธ์การตลาดช่วงเทศกาล
Festive Marketing หรือ การตลาดตามเทศกาล เป็นแผนการตลาดเชิงกลยุทธ์ที่ธุรกิจนำมาใช้เพื่อเพิ่มการรับรู้แบรนด์และกระตุ้นยอดขายในช่วงเทศกาลหรือวันหยุดพิเศษ
วันนี้เรามี 9 กลยุทธ์การตลาดเด็ดๆ ที่จะช่วยให้ SME เพิ่มยอดขายได้อย่างก้าวกระโดด พร้อมเติบโตอย่างมั่นคง เพราะปัจจุบันธุรกิจมีการแข่งขันที่สูงขึ้น การทำการตลาดถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยให้ SME สามารถเติบโตและอยู่รอดได้ท่ามกลางคู่แข่งมากมาย แต่การจะประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยการวางแผนอย่างรอบคอบ และลงมือทำอย่างถูกจังหวะถูกเวลา
การทำตลาดให้สินค้าหรือบริการของเรานั้น จำเป็นต้องเน้นย้ำถึงประโยชน์ที่ลูกค้าจะได้รับเป็นหลัก เพื่อให้ลูกค้ารู้สึกว่าสิ่งที่เรานำเสนอนั้นจะช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตของพวกเขาได้ในทางที่ดีขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดความรู้สึกว่า “ต้องมีไว้ครอบครอง” หรือ “จำเป็นต้องใช้” นั่นเอง นี่คือหัวใจสำคัญของการขายที่แท้จริง
การศึกษากลุ่มเป้าหมายอย่างถ่องแท้ จะช่วยให้เราสามารถปรับกลยุทธ์และวางแผนการตลาดได้ตรงใจลูกค้ามากยิ่งขึ้น บางครั้งอาจนำไปสู่ไอเดียใหม่ๆ ที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อน ซึ่งอาจส่งผลให้ธุรกิจของเราเติบโตแบบก้าวกระโดดก็เป็นได้ เพราะฉะนั้นอย่าลืมรับฟังเสียงของลูกค้าอยู่เสมอ เพราะพวกเขาคือกุญแจสำคัญที่จะนำพาธุรกิจของเราไปสู่ความสำเร็จ
ในยุคที่การตลาดเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ การกล้าคิดนอกกรอบและลองทำสิ่งใหม่ๆ ถือเป็นสิ่งจำเป็น ไม่ว่าจะเป็นการใช้ Social Media, การทำ Influencer Marketing หรือแม้แต่การปรับตัวเข้าสู่ระบบ E-Commerce ล้วนเป็นสิ่งที่ SME ควรให้ความสำคัญ เพื่อให้สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างตรงจุด
แม้ว่าหลายคนอาจมองว่าการขายของผ่าน Social Media เพียงอย่างเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่ความจริงแล้วการมีเว็บไซต์เป็นของตัวเองก็มีประโยชน์ไม่น้อยเช่นกัน เพราะเว็บไซต์จะเปรียบเสมือนหน้าร้านออนไลน์ที่เปิดตลอด 24 ชั่วโมง พร้อมให้บริการลูกค้าได้ทุกที่ทุกเวลา อีกทั้งยังช่วยสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดีอีกด้วย
หากยังไม่มั่นใจว่าการทำการตลาดในช่องทางไหนจะได้ผลดีที่สุด ให้ลองทำแคมเปญในหลายๆ ช่องทางดูก่อน แล้วเก็บข้อมูลและติดตามผลอย่างใกล้ชิด ช่องทางไหนไม่เวิร์คก็ยกเลิกไป แล้วเอางบประมาณที่เหลือไปลงทุนกับช่องทางที่ให้ผลตอบรับดีแทน การตลาดเป็นเรื่องของการลองผิดลองถูก แต่ต้องมีการวางแผนที่ดี เพื่อจำกัดความเสี่ยงและความเสียหายให้น้อยที่สุด
นอกจากจะต้องเลือกช่องทางการตลาดให้เหมาะสมแล้ว การทำแคมเปญแบบครอบคลุมในหลายๆ ช่องทางพร้อมกัน ก็จะยิ่งช่วยให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้น ยกตัวอย่างเช่น ถ้าลูกค้าได้ยินชื่อแบรนด์จากโฆษณาทางวิทยุ ค้นหาใน Google แล้วเจอเว็บไซต์เราติดอันดับต้นๆ แถมยังเห็นแบรนด์เราอยู่ในบทความที่เขาสนใจอีก โอกาสที่ลูกค้าจะจดจำแบรนด์ของเราได้ก็จะยิ่งสูงขึ้นไปอีก
การทำ PR ไม่ว่าจะผ่านสื่อ หรือการร่วมมือกับ Influencer ล้วนเป็นวิธีที่จะช่วยสร้างการรับรู้ สร้างภาพลักษณ์ที่ดี และความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ได้เป็นอย่างดี หากทำ PR ได้ตรงจุดและโดนใจกลุ่มเป้าหมาย ก็จะส่งผลดีต่อยอดขายแบบทวีคูณเลยทีเดียว ดังนั้นอย่ามองข้ามความสำคัญของการทำ PR โดยเด็ดขาด
การเปิดพื้นที่ให้ลูกค้าได้แสดงความคิดเห็น ไม่ว่าจะเป็นคำชม ติชม หรือข้อเสนอแนะต่างๆ จะทำให้ลูกค้ารู้สึกว่าตัวเองมีคุณค่า และความคิดเห็นของพวกเขาได้รับการใส่ใจจากแบรนด์อย่างแท้จริง ซึ่งจะนำไปสู่ความผูกพันที่แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น อีกทั้งยังเป็นโอกาสให้เราได้รับฟังเสียงสะท้อนจากลูกค้า เพื่อนำไปพัฒนาสินค้าและบริการให้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย
การรักษาฐานลูกค้าเก่าเอาไว้ก็มีความสำคัญไม่แพ้กับการแสวงหาลูกค้าใหม่ การมอบสิทธิพิเศษ ส่วนลด หรือบริการพิเศษให้กับลูกค้าเก่า จะช่วยสานสัมพันธ์อันดีและสร้างความจงรักภักดีต่อแบรนด์ในระยะยาว ในขณะเดียวกัน ก็อย่าลืมขยายฐานไปสู่กลุ่มลูกค้าใหม่ๆ ควบคู่กันไปด้วย เพื่อสร้างการเติบโตที่มั่นคงและยั่งยืน
การทำการตลาดให้ประสบความสำเร็จได้นั้น ต้องอาศัยทั้งกลยุทธ์ที่หลากหลาย การลงมือทำอย่างจริงจัง และการปรับตัวให้ทันกับยุคสมัยอยู่เสมอ หากนำ 9 กลยุทธ์ที่กล่าวมาข้างต้นไปปรับใช้กับธุรกิจของคุณ รับรองว่ายอดขายจะต้องเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดดอย่างแน่นอน