ทำความรู้จัก แพคเกจจิ้งรักษ์โลกคืออะไร มีข้อดีข้อเสีย และผลิตจากวัสดุไหนบ้าง
แพคเกจจิ้งรักษ์โลกหรือ Eco-Packaging คือบรรจุภัณฑ์ที่ออกแบบมาเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยใช้วัสดุที่สามารถรีไซเคิลหรือย่อยสลายได้ตามธรรมชาติ
ในชีวิตประจำวัน เราใช้บัตรพลาสติกกันอย่างแพร่หลาย ไม่ว่าจะเป็นบัตรเครดิต บัตรสมาชิก บัตรพนักงาน หรือแม้แต่นามบัตรพลาสติก เคยสงสัยกันไหมว่าทำไมบัตรบางชนิดถึงบางกว่าบัตรอื่นๆ? ความหนาของบัตรพลาสติกนั้นส่งผลต่อการใช้งานและความทนทานอย่างมาก บทความนี้จะพาคุณไปทำความเข้าใจถึงความแตกต่างระหว่างบัตรพลาสติกแบบบางและแบบหนา รวมถึงการใช้งานที่เหมาะสม เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้บัตรได้อย่างถูกต้องและคุ้มค่า
ความหนาของบัตรพลาสติกมักวัดเป็นหน่วยมิลลิเมตร (มม.) โดยทั่วไปแล้ว สามารถแบ่งประเภทความหนาของบัตรพลาสติกออกเป็น 3 ประเภทหลัก ดังนี้
Description: บัตรประเภทนี้มีความยืดหยุ่นสูง บิดงอได้ง่าย น้ำหนักเบา และมีราคาถูกที่สุดในบรรดาบัตรพลาสติกทั้งหมด
การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานที่ไม่ต้องการความทนทานมากนัก หรือใช้งานชั่วคราว เช่น
Description: เป็นความหนาที่นิยมใช้มากที่สุด มีความสมดุลระหว่างความทนทานและราคา ไม่หนาและไม่บางจนเกินไป
การใช้งาน: เหมาะสำหรับการใช้งานทั่วไปที่ต้องการความทนทานในระดับหนึ่ง เช่น
Description: มีความแข็งแรงและทนทานสูงที่สุดในบรรดาบัตรพลาสติกทั้งหมด ทนต่อการบิดงอ การเสียดสี และสภาพแวดล้อมต่างๆ ได้ดี
การใช้งาน: เหมาะสำหรับงานที่ต้องการความทนทานเป็นพิเศษ หรือมีการใช้งานซ้ำๆ ในสภาพแวดล้อมที่สมบุกสมบัน เช่น
เพื่อให้เห็นภาพรวมได้ง่ายขึ้น เราได้สรุปความหนาและการใช้งานในตารางด้านล่างนี้
ความหนา (มม.) | ประเภทบัตร | การใช้งานทั่วไป |
0.3 – 0.33 | บัตรบาง | นามบัตร, บัตรของขวัญ, บัตรสะสมแต้ม, บัตรพนักงานแบบใช้ร่วมกับบัตรอื่น |
0.76 | บัตรมาตรฐาน | บัตรพนักงาน, บัตรนักเรียน/นักศึกษา, บัตรสมาชิก, บัตร ATM/บัตรเครดิต |
0.8 ขึ้นไป | บัตรหนา | บัตรจอดรถ, บัตรควบคุมการเข้าออก (เช่น Proximity Card), บัตรที่มีการใช้งานพิเศษ (เช่น พิมพ์นูน หรือเคลือบพิเศษ) |
ประเภทบัตร | ข้อดี | ข้อเสีย |
บัตรบาง | ราคาถูก น้ำหนักเบา พกพาง่าย | ความทนทานต่ำ ฉีกขาดหรืองอได้ง่าย |
บัตรมาตรฐาน | ความทนทานปานกลาง ใช้งานได้หลากหลาย ราคาเหมาะสม | อาจไม่ทนทานเท่าบัตรหนา |
บัตรหนา | ทนทานสูงมาก เหมาะกับการใช้งานหนัก | ต้นทุนสูงกว่าบัตรประเภทอื่น |
การเลือกใช้บัตรควรพิจารณาจากปัจจัยต่างๆ เช่น งบประมาณ วัตถุประสงค์การใช้งาน ความถี่ในการใช้งาน และสภาพแวดล้อมที่บัตรต้องเผชิญ
บัตรพลาสติกมีมาตรฐานที่เกี่ยวข้อง เช่น ISO/IEC 7810 ซึ่งกำหนดขนาดและคุณสมบัติของบัตร เพื่อให้บัตรสามารถใช้งานร่วมกับอุปกรณ์ต่างๆ ได้อย่างราบรื่น ความปลอดภัยในการใช้งานบัตรก็เป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะบัตรที่เกี่ยวข้องกับการเงินหรือข้อมูลส่วนตัว มีเทคโนโลยีต่างๆ ที่ใช้ในการเพิ่มความปลอดภัย เช่น แถบแม่เหล็ก ชิป RFID หรือสมาร์ทการ์ด
บัตรพลาสติกแบบบางและแบบหนามีความแตกต่างกันในด้านความหนา ความทนทาน และการใช้งาน การเลือกใช้บัตรให้เหมาะสมกับการใช้งานจะช่วยให้คุณได้รับประโยชน์สูงสุดและคุ้มค่าที่สุด หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจความแตกต่างของบัตรพลาสติกมากยิ่งขึ้น